gnuh.net
656
รารา

หากจะให้นึกถึงกองหน้าเฟร้นช์แมนที่จบสกอร์ได้คมกริบ และผ่านประสบการณ์การเล่นให้กับทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปหลายสโมสรด้วยกันมากกว่า 10 สโมสร เชื่อว่าชื่อของนิโคล่าส์ อเนลก้า จะลอยเข้ามาเป็นเบอร์หนึ่งอย่างแน่นอน ว่ากันว่าหากอเนก้า มีวินัยในการฝึกซ้อมมากกว่านี้ และลดความติสต์ในตัวเองลง ด้วยความแข็งแกร่งของร่างกาย ความสามารถในการยิงประตู รวมกับพรสวรรค์การเล่นฟุตบอลที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด หลายคนเชื่อว่า นิโคล่าส์ อเนลก้า สามารถก้าวขึ้นไปเป็นกองหน้าระดับโลกได้อย่างไม่ยากเย็น ประวัติการเล่นฟุตบอลของอเนลก้า เริ่มต้นขึ้นเมื่อเขาเข้าร่วมทีมปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยักษ์ใหญ่ของแดนน้ำหอม ตั้งแต่ชุดเยาวชน ก่อนจะได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่เมื่อปี 1995 อย่างก้าวกระโดด และด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นของเขาได้ไปเตะตา อาร์แซน เวนเกอร์ สุดยอดกุนซือชาวฝรั่งเศส ที่จับเขาเซ็นสัญญากับอาร์เซน่อล ในปี1997 ด้วยวัยเพียง 17 ปี พร้อมกับทุ่มค่าตัวถึง 500,000 ปอนด์ (ราว 35 ล้านบาท) อันเป็นสถิติค่าตัวที่ถือว่าสูงมากสำหรับนักเตะวัยรุ่นที่อายุยังไม่ถึง 20 ปี และยังไม่ประสบการณ์ในเวทีใหญ่ในสมัยนั้น

อย่างไรก็ตามการลงทุนของทีมปืนใหญ่อาร์เซน่อล กับการคว้าตัวอเนลก้ามาร่วมทีมนั้น ถือว่าคุ้มค่าทุกปอนด์เมื่อ ฤดูกาลแรกในเวทีพรีเมียร์ลีก อเนลก้าก็โชว์ฟอร์มทันที โดยเขาเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์ (พรีเมียร์ลีก+เอฟเอ คัพ) มาครองได้ในฤดูกาล 1997-98 ซึ่งผลงานอันน่าประทับใจของเขาก็ทำให้ได้รับการโหวตให้เป็นนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอในซีซั่นถัดมา หลังจากอเนลก้า ปรับตัวเข้ากับเวทีพรีเมียร์ลีกได้แล้ว เขาก็โชว์ดีได้อย่างต่อเนื่องเป็นศูนย์หน้าอันดับหนึ่งของทีมอาร์เซน่อลและทีมชาติฝรั่งเศส เมื่อถึงเวลานี้แล้วอเนลก้าได้มีการเรียกร้องขอขึ้นค่าเหนื่อยกับทางต้นสังกัดมากกว่า 2 เท่าตัว กับค่าเหนื่อยที่รับกับอาร์เซน่อลปัจจุบัน ซึ่งเป็นเรตอัตราที่อาร์เซน่อลจะจ่ายได้ หนทางเดียวของ เดอะ กันเนอร์ส คือ ต้องยอมขายกองหน้าตัวเก่งของพวกเขาให้กับเรอัล มาดริด ยอดทีมแห่งสเปน ด้วยค่าตัวมหาศาล 23 ล้านปอนด์ ว่ากันว่าสาเหตุหนึ่งที่อเนลก้า เรียกร้องค่าจ้าง 2 เท่าจากเรตที่รับปัจจุบันกับอาร์เซน่อล เนื่องด้วยอเนลก้าต้องการที่จะบีบอาร์เซน่อลให้ปล่อยตัวเขาไปร่วมทีมเรอัล มาดริด ซึ่งจากการย้ายตัวของอเนกล้า จากอาร์เซน่อล ไปสู่ เรอัล มาดริด ถือว่าเป็นวินวินด้วยกันทุกฝ่าย อย่างในส่วนของอาร์เซน่อล ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงในเรื่องของการลงทุน โดยเขาซื้ออเนลก้ามาจาก เปแอสเช ด้วยราคาค่าตัว 500,000 ปอนด์ เล่นให้กับปืนใหญ่ 2 ฤดูกาล คว้าดับเบิ้ลแชมป์ เมื่อขายไปได้ค่าตัว 23 ล้านปอนด์ ถือว่าสุดคุ้ม ในส่วนของนิโคล่าส์ อเนลก้า ก็ได้ย้ายทีมไปอยู่กับสโมสรที่ใหญ่กว่าอาร์เซน่อล และได้ค่าเหนื่อยเป็น 2 เท่าจากที่เขารับที่อาร์เซน่อล ส่วนเรอัล มาดริด ก็ได้ยอดกองหน้าที่ร้อนแรงที่สุดในยุโรปไปร่วมทีมเช่นกัน

หลังจากที่อเนลก้าได้แขวนสตั๊ดแล้ว เขาได้ออกมาสารภาพว่า ความผิดพลาดเดียวในชีวิตของเขาคือ การย้ายออกจากอาร์เซน่อล หากเขาค้าแข้งอยู่กับอาร์เซน่อลภายใต้การคุมทีมของอาร์แซน เวนเกอร์ (โค้ชที่อเนลก้ายอมรับว่าเข้าใจเขามากที่สุด) ได้นานกว่านี้ เขาจะประสบความสำเร็จมากกว่านี้อย่างแน่นอน โดยหลังจากอเนลก้าย้ายมาถิ่น ซานดิอาโก้ เบอร์นาเบวของเรอัล มาดริด แล้ว กลับกลายเป็นว่าเขาไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งเหมือนสมัยที่เล่นให้อาร์เซน่อล อเนลก้าไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่แฟนบอลราชันชุดขาวคาดหวัง และแม้ว่าจะสามารถคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองได้ แต่สุดท้ายอดีตดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกก็ถูกโละให้เปแอชเช อดีตต้นสังกัดเก่าด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์ (ราว 1,400 ล้านบาท) หลังจากที่อยู่ในปารีส มาปีครึ่ง นิโคล่าส์ อเนลก้า ก็ทนกลิ่นเย้ายวนในเวทีพรีเมียร์ลีกไม่ไหว โดยเขาได้หวนกลับสู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้งในปี 2002 ด้วยสัญญายืมตัวกับหงส์แดงลิเวอร์พูล และเขาก็สามารถช่วยให้ทีมหงส์แดงลิเวอร์พูล จบฤดูกาลด้วยการเป็นอันดับที่ 2 ของตาราง แต่ เชราร์ อุลลิเย่ร์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลในเวลานั้น มีความไม่มั่นใจในตัวของอเนลก้า โดยอุลลิเย่ร์ เลือกไม่ไปต่อกับอเนลก้า ไม่ทำการเซ็นต์สัญญาแบบถาวรให้กับอเนลก้าแต่เลือกเซ็นสัญญากับ เอล ฮัดจิ-ดิยุฟ ศูนย์หน้าทีมชาติเซเนกัลแทน เมื่อไม่ได้สัญญาถาวรจากหงส์แดงลิเวอร์พูล สถานีต่อไปของนิโก้ คือ เลือกย้ายไปเล่นให้กับเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัว 12 ล้านปอนด์ (ราว 840 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นสถิติของสโมสรเลยทีเดียว อเนลก้าเล่นให้กับเรือใบสีฟ้าเป็นเวลา 3 ปี ถือว่าฟอร์มค่อนข้างดี แต่ไม่มีโทรฟี่ในถิ่นเมนโรด ทำให้เขาต้องออกพเนจรอีกครั้ง

ในปี 2015 อเนลก้าได้ออกเดินทางอีกครั้ง โดยสถานีนี้คือ เฟเนร์บาห์เช่ ยอดทีมแห่งตุรกี ด้วยค่าตัว 7 ล้านปอนด์ (ราว 490 ล้านบาท) สำหรับบ้านใหม่นี้เขามีส่วนช่วยให้ต้นสังกัดใหม่คว้าแชมป์ลีกในปี 2005 ก่อนที่อีกหนึ่งฤดูกาลจะเข้าป้ายได้รองแชมป์จะอกหักพลาดแชมป์ลีกในวันสุดท้ายของฤดูกาล 2005-06 ต่อ กาลาตาซาราย เวทีพรีเมียร์ลีกก็ยังหอมหวนสำหรับ นิโคล่าส์ อเนลเก้า อยู่ดี ในปี 2006 เขาได้ย้ายมาร่วมทีมโบลตัน วันเดอร์เรอร์ และเป็นนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีมด้วย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะทำประตูได้อย่างต่อเนื่องให้ เดอะ ทร็อตเตอร์ส แต่ก็ไม่สามารถช่วยให้ทีมทำผลงานดีขึ้นได้ และการจมอยู่ในโซนท้ายตารางก็ทำให้ นิโก้ ตัดสินใจย้ายทีมอีกครั้งทั้งที่จะเพิ่งต่อสัญญาในถิ่นรีบอค สเตเดี้ยม ไปจนถึงปี 2011 ในปี 2008 อเนลก้า ได้ย้ายมาร่วมทีม เชลซี ด้วยค่าตัว 15 ล้านปอนด์ ทำให้อเนลก้ากลายเป็นนักเตะที่มีค่าตัวรวมสูงที่สุดในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอล 87 ล้านปอนด์  เริ่มตั้งแต่การย้ายทีมครั้งแรกจนถึงครั้งล่าสุด กับทีมสิงห์บูลส์ อเนลก้าลงเล่นไปกว่า 125 นัด ทำประตูได้ 59 ลูก คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 1 สมัย เอฟเอคัพ 2 สมัย และคอมมูนิตี้แชร์ตี้ชิลด์ 1 สมัย ด้วยกัน จากนั้นเขาได้ย้ายไปร่วมทีมเซี่ยงไฮ้ในจีน ยูเวนตุส จากอิตาลี วนกลับมาพรีเมียร์ลีกอีกครั้งกับเวสต์บรอมวิชอัลเบียนและสโมสรสุดท้ายคือมุมไบซิตี้ จากอินเดีย ก่อนที่จะแขวนสตั๊ดในวัย 34 ปี   ผลงานกับทีมชาติฝรั่งเศส อเนลก้า เป็นกองหน้าคนสำคัญของทีมตราไก่ และมีส่วนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ยูโร 2000 มาครองได้สำเร็จ โดยนั่นเป็นเพียงโทรฟี่ของอเนลก้ากับทีมชาติฝรั่งเศสที่เกิดขึ้น

สมัครสมาชิก รับโปรโมชั่น

แทงบอลครบ 1000 รับฟรี หมอน 656
ฝาก 1000 รับฟรีแก้วเยติ ufa 656
สมัครวันนี้ รับฟรี เสื้อมหาเฮง